บทความเด่นประจำสัปดาห์

วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Skill Type & Skill Build Guide สกิลมากเหลือ เพื่อเธอได้ใช้ พร้อมแนวทางการอัพ

Skill Type & Skill Build Guide

สวัสดีครับเพื่อนๆ เป็นไงบ้าง ใกล้จะถึงเวลาเซิฟไทยเปิดแล้ว ใครรอกันอยู่บ้าง หรือ ใครจะเล่นเซิฟเวอร์นอกก็ไม่ว่ากันครับ แค่เล่นเมเปิ้ลด้วยกันกับเพื่อนๆ ก็เป็นเรื่องน่าดีใจแล้ว วันนี้ผมจะมาอธิบายเรื่องสกิลในเกมเมเปิ้ลมีแบบไหนบ้าง และ แนวทางการเลือกอัพสกิลกันครับ

แนวทางการอัพสกิลโดยทั่วไป

ผู้เล่นสามารถเลือกหาแนวทางของแต่ละสายอาชีพได้จากผู้เล่นที่เชี่ยวชาญแล้วทำการลอกได้ แต่หากสายอาชีพนั้นๆหาแนวทางในการลอกไม่ได้ หรือ เรามีไอเดียที่แหวกแนว ผู้เล่นมีสิทธิที่จะเลือกเองได้ แต่อย่างน้อยๆควรคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้

ขั้นตอนการอัพสกิลสายอาชีพโดยทั่วไป

  1. อัพสกิลโจมตี ไถ/ดึง โดยเฉพาะสกิลที่ใช้เก็บเลเวลก่อนอย่างน้อย1แต้มเมื่อเปลี่ยนคลาส
  2. อัพสกิลช่วยเคลื่อนที่อัพให้เต็ม สกิลประเภทนี้ยิ่งอัพยิ่งใช้MPน้อยลง
  3. อัพสกิล Passiveเต็ม เนื่องจากจะช่วยเร่งความสามารถ โดยที่ไม่เปลืองMP
  4. อัพสกิลบัฟ ในเลเวลที่เหมาะสมใช้งานให้ระยะเวลาบัฟนานพอ ไม่ต้องกดใหม่บ่อยๆ
  5. แวะไปอัพสกิลโจมตีหลัก จนถึงเลเวลที่ควรอัพ(นับแต้มดีๆว่าพอมั้ย)ถ้าไม่พออัพเต็ม และ ไม่จำเป็นต้องใช้ยันEnd-Gameให้อัพเท่าที่อัพได้แล้วหยุด
  6. แวะกลับไปอัพสกิลบัฟให้เต็ม(ถ้าจำเป็นต้องเต็ม)
  7. แต้มช่วงสุดท้ายค่อยไปอัพพวกสกิลไถ/ดึง สกิลวางป้อม/เหยื่อล่อ เพราะสกิลพวกนี้ไม่ค่อยมีโอกาสบ่อยนักที่จะใช้ช่วงเก็บเลเวลกับมอนตามฉาก 

    ความเข้าใจในการอัพสกิล

    • นับจำนวนSkill Pointที่ได้รับ เทียบกับสกิลที่จำเป็นต้องอัพ บวกลบดีๆว่าพอมั้ย จำนวนแต้มสามารถตรวจสอบได้ที่นี่ >>คลิก<<
    • ควรเข้าใจในPlay Styleของอาชีพนั้นๆ โดยศึกษาจากสกิลทั้งหมดยัน End Game ว่าสกิลไหนใช้หรือไม่ใช้ในช่วงท้ายเกม เพราะสกิลเหล่านี้เราต้องใช้ไปตลอด สกิลที่ไม่ได้ใช้ในช่วงหลัง ไม่มีความจำเป็นต้องอัพเต็ม ถ้าแต้มไม่เหลือจริงๆ
    • สกิลบางชนิดที่อัพแล้วไม่มีความแตกต่างกันมาก เพียงแค่ระยะเวลาบัฟนานขึ้นเฉยๆเช่นสกิลWeapon Boosterจะอัพเต็มหรือไม่ก็ได้
    • สกิลทางผ่านโดยเฉพาะที่ผ่านไปสกิลสำคัญภายหลัง ต้องอัพให้ครบตามเงื่อนไข ห้ามพลาดเด็ดขาด มีผู้เล่นมือใหม่พลาดในส่วนนี้เป็นจำนวนมากถึงขั้นลบตัวหรือเลิกเล่นไปหลายคน
      สามารถตรวจสอบได้ที่นี่ >>คลิก<<
    • สกิลโจมตี ส่วนใหญ่จะโดนทดแทนด้วยสกิลใหม่เมื่อเปลี่ยนคลาส ให้ศึกษาPlay Styleให้ดี มีแค่บางกรณีที่สกิลไม่โดนทดแทนเนื่องจากมีการบัฟจากสกิลคลาสสูงขึ้น
    • สกิลคลาส4อัพเต็มได้ทุกสกิล แต้มพอ ทีมสร้างเกมนับมาแล้ว ดังนั้นให้อัพสกิลตามขั้นตอนโดยไม่ต้องกลัวว่าแต้มจะขาด
    • สมัยนี้ไม่ต้องเคลียแต้มให้หมดก่อนเปลี่ยนคลาสแล้ว ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ดังนั้นถ้ายังไม่ชัวร์ ปล่อยแต้มทิ้งไว้ก่อนก็ได้ ไว้มั่นใจค่อยอัพ

    การแบ่งประเภทสกิล

    บทนำ

    Skill หมายถึง ทักษะที่ตัวละครของเรามี ที่นอกเหนือจากสิทธิพื้นฐานในเกมเมเปิ้ล(เดิน กระโดด ปีน ใช้ไอเท็ม ฯลฯ) ซึ่งมีมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี เพิ่มพูนสถานะ ฟื้นฟูจากความเสียหาย ลดความสามารถของเป้าหมาย เรียกผู้ช่วย อัพเกรดไอเท็ม ฯลฯ และอีกหลายอย่าง ซึ่งSkill แยกรูปแบบใหญ่ๆได้ 3 รูปแบบ คือ 
    1. Active Skill หมายถึง สกิลที่ต้องทำการเรียกใช้จึงจะมีผล
    2. Passive Skill หมายถึง สกิลที่มีผลแม้เราจะไม่ได้เรียกใช้
    3. Toggle Skill หมายถึง สกิลที่เลือก เปิด/ปิด การใช้งานได้ ตามแต่ผู้ใช้จะเลือก
    โดย Skill ทั้ง Active และ Toggle ในบางครั้งก็จะมีผลแบบPassiveเป็นของแถมมาด้วยเช่นกัน 

    ชนิดของสกิลในเกมเมเปิ้ลตามแหล่งที่มาของสกิล

    สกิลในเกมเมเปิ้ลมีแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน หากแบ่งตามSourceจะแยกได้ดังนี้
    1. Job Skill
      สกิลชนิดนี้เป็นสกิลที่ตัวละครเรียนรู้มาจากการเป็นอาชีพนั้นๆ เป็นสกิลของแต่ละสายอาชีพ สกิลประเภทนี้จะต้องใช้แต้มอัพ มักจะมีการอัพผิดในผู้เล่นใหม่ สกิลมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งทำแดมเมจ บัฟ ฟื้นฟู ฯลฯ ส่วนใหญ่แต้มจะพออัพทุกสกิลแต่อาจไม่เต็มทั้งหมดในช่วงคลาสหนึ่งถึงสาม แต่ในช่วงคลาสสี่จะพออัพให้เต็มทุกสกิล
    2. Hyper Skill
      สกิลชนิดนี้คือสกิลขั้นสูงที่ต้องใช้แต้มเฉพาะในการอัพ สกิลประเภทActiveและPassiveจะใช้แต้มแยกต่างหากกัน ในส่วนActiveแต้มพออัพเต็มทุกสกิล แต่สกิลPassiveจะต้องเลือกอัพ
    3. V Matrix Skill
      สกิลชนิดนี้เริ่มใช้ในคลาส5(คลาสV)สกิลประเภทนี้มีแยกย่อยไปอีกหลายประเภท ทั้ง สกิลบูส สกิลใช้งาน สกิลบัฟ โดยสกิลจะไม่ต้องใช้แต้มในการอัพ แต่ต้องหาไอเท็มมาอัพเกรด และ ทำการถอด/ใส่ สลับใช้งานได้
    4. Link Skill
      สกิลชนิดนี้ได้จากการเล่นตัวละครอื่นๆในไอดีของเราและทำการถ่ายทอดให้กับตัวละครในไอดีเดียวกันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวรับสกิล สกิลชนิดนี้ไม่ต้องใช้แต้มอัพเช่นกัน สกิลส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นPassiveเพิ่มสถานะ มีบางสกิลเท่านั้นที่เป็นสกิลActive
    5. Boss Soul Skillสกิลชนิดนี้ได้จากการอัพเกรดอาวุธของเราให้มีคุณสมบัติSoul Weaponแล้วนำเอาSoulของบอสใส่ลงไป โดยสกิลส่วนใหญ่เป็นสกิลจู่โจมและสกิลอัญเชิญ
    6. Equipment Skill
      สกิลประเภทนี้ได้จากการสวมใส่ไอเท็ม ที่มีการแถมสกิลมาให้ เช่นแหวนAngelic Blessing, แหวนจากTower of OZ หรือไอเท็มที่มี Decent Skill จากHidden Potential
    7. Quest Skill
      สกิลที่ได้จากการทำเควส มักจะไม่ต้องใช้แต้มอัพ แต่บางสกิลอย่าง Call of CygnusจะไปรวมกับสกิลชนิดJob Skill สกิลชนิดนี้เช่นWill of Alliance ,Soaring ,UA Skill
    8. Event Skill
      สกิลที่ใช้ได้ชั่วคราวแค่ช่วงกิจกรรมเท่านั้น เช่นสกิลของOmega Sector และ Elunite
    9. Guild Skill
      สกิลที่จะได้รับจากการเป็นสมาชิกกิลด์ สกิลประเภทนี้ต้องเลือกอัพ แต่เป็นสิทธิการตัดสินใจของผู้ดูแลกิลด์ว่าจะอัพเกรดสกิลไหน โดยการใช้งานสกิลประเภทนี้ต้องใช้แต้มกิลด์เป็นค่าใช้จ่าย

    ชนิดของสกิลตามการใช้งาน

    เป็นวิธีการจำแนกสกิลที่ไม่เป็นทางการเท่าไหร่ แต่นิยมในหมู่ผู้เล่น เพื่อให้เข้าใจลักษณะการทำงานของสกิลได้ง่ายๆ
    1. สกิลโจมตี

      1.1สกิลประเภทจู่โจมทำแดมเมจ
      สกิลประเภทนี้จะเน้นการโจมทำแดมเมจเป็นหลัก เป็นสกิลที่มักจะถูกทดแทนเมื่อได้สกิลที่ดีกว่าตอนหลังจากเปลี่ยนคลาส สกิลประเภทนี้มักจะเป็นตัวเลือกในการอัพไม่เต็ม มักจะเป็นสกิลหลักในการฟามเก็บเลเวล
      Bomb Punch Effect
      1.2สกิลไถ/ฉุด
      สกิลประเภทนี้เน้นการจัดระเบียบมอน บังคับตำแหน่งมอน ให้เข้าหา/ออกห่าง จากตัวละครเรา จุดประสงค์เพื่อการรวมกลุ่มมอนให้อยู่ในระยะโจมตี
      Combo Force Effect
      1.3สกิลวางป้อม/เหยื่อล่อ
      เป็นสกิลที่ผู้ใช้วางทิ้งไว้เพื่อให้เกิดผลเสียกับศัตรูเช่น การทำดาเมจ หลอกล่อให้มอนเบนเป้าหมายโจมตี
      Door of Truth Effect
      1.4สกิลกับดัก
      สกิลชนิดนี้เน้นการวางกับดักที่วางอยู่ตามฉากเพื่อสร้างดาเมจต่อเนื่อง มักจะเป็นสกิลของสายเมจ
      Chilling Step Effect
      1.5สกิลสร้างความเสียหายวงกว้าง
      สกิลประเภทนี้ก็ถือเป็นสกิลจู่โจมเช่นกัน แต่จะมีการทำแดมเมจที่รุนแรงและกว้างขวางมีเป้าหมายหลายตัว มักจะมีcooldownในการใช้งาน สกิลประเภทนี้มักจะมีผลคำสาปหรือความสามารถแบบpassiveเป็นของแถมให้ด้วย
      Meteor Effect
    2. สกิลสนับสนุน

      2.1สกิลบัฟ
      เป็นสกิลที่ใช้ในการเพิ่มสถานะให้กับตัวละครเพื่อให้มีความสามารถที่สูงกว่าสถานการณ์ปกติ
      Magic Booster Effect
      2.2สกิลดีบัฟ
      เป็นสกิลที่สร้างสถานะผิดปกติให้เป้าหมาย ทั้งคำสาปต่างๆ หรือ การลดสถานะ
      Slime Virus Effect
      2.3สกิลจับมอน
      เป็นสกิลที่ใช้หยุดการเคลื่อนไหวของเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด
      Bloody Imprison Effect
      2.4สกิลวางเสา
      สกิลประเภทนี้จะเหมือนกับสกิลวางป้อม แต่จะเน้นไปที่การสนับสนุน
      Holy Fountain Effect
      2.5สกิลฟื้นฟู/ชุบชีวิต
      สกิลชนิดนี้เน้นผลลัพธ์ในการรักษาความเสียหาย ฟื้นฟูสภาพตัวละครให้กลับสู่ปกติ
      Heal Effect
      2.6สกิลกันKO
      เป็นสกิลที่หลังบัฟไปแล้วจะไม่มีผลอะไร แต่ติดตัวเราไปแล้วจะออกผลหลังจากตัวละครตาย
      2.7สกิลรักษาอาการผิดปกติ
      สกิลประเภทนี้ถ้าใช้ในเวลาปกติจะไม่มีผลอะไร แต่ถ้าใช้ในขณะติดสถานะผิดปกติชนิดต่างๆ จะเป็นการรักษาให้หาย กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
      Dispel Effect
    3. สกิลอัญเชิญสกิลชนิดนี้จะมีผลเป็นแบบสกิลประเภทที่1 และ/หรือ ประเภทที่2 แต่จะใช้วิธีการคำนวณแดมเมจและระยะเวลาสกิลที่แตกต่างออกไป (สกิลประเภทนี้จะใช้Summon Duration ในการยืดระยะเวลา Buff Durationจะไม่มีผล)
      3.1อัญเชิญจู่โจม
      อัญเชิญผู้ช่วยมาเพื่อจุดประสงค์ในการใช้สกิลประเภทจู่โจม

      Bahamut Effect
      3.2อัญเชิญบัฟ
      อัญเชิญผู้ช่วยมาเพื่อจุดประสงค์ในการใช้สกิลประเภทสนับสนุน
      Beholder's Buff Effect

    4. สกิลเคลื่อนที่

      4.1แฟลชจั้ม
      เป็นสกิลที่มักจะต้องกระโดดก่อนถึงจะใช้ได้ มีผลในการเคลื่อนที่อย่างว่องไว
      Double Jump Effect
      4.2เทเลพอต
      สกิลที่ใช้ในการเคลื่อนที่อย่างว่องไว เป็นสกิลชนิดที่นิยมในสายนักเวทย์
      4.3สกิลบลิ้ง
      คล้ายกับสกิลเทเลพอต เพียงแต่จะเน้นไปที่การวิ่งเข้าหามอนโดยตรง
      Special Movement Skill Flash
      4.4สกิลเคลื่อนที่แนวดิ่ง
      เป็นสกิลที่ช่วยให้ตัวละครเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในแนวดิ่งได้ 
    5. สกิลติดตัว

      5.1แบบมีผลตลอด
      เป็นสกิลที่จะมีผลกับตัวละครทันทีเมื่อใช้แต้มอัพไปแล้วและจะเปิด/ปิดไม่ได้
      5.2แบบมีเงื่อนไข
      เป็นสกิลติดตัวที่จะทำงานก็ต่อเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนใหญ่จะทำงานเมื่อHPต่ำกว่าที่กำหนด เช่นสกิลเร่งสถานะของลูมินัส สกิลอมตะของดาร์คไนท์
      Reincarnation Effect
      5.3สกิลเปิด/ปิด
      สกิลติดตัวชนิดนี้มักจะมีผลที่ทำให้สไตล์การเล่นเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากจึงต้องทำให้บอสไม่สามารถปลดได้ไม่งั้นวิธีการเล่นจะเปลี่ยนแปลง จึงถูกออกแบบให้ เปิด/ปิด การใช้งานได้
      Beholder Effect
    6. สกิลชนิดอื่นๆที่ไม่เข้าพวก

      6.1สกิลอัพเกรดไอเท็ม
      สกิลที่จำเป็นในการอัพเกรดไอเท็มบางชนิดเช่น Legendary Spirit หรือ Nebulite Fusion
      6.2สกิลจำเป็นเพื่อผ่านเควส
      สกิลที่จำเป็นในการผ่านเควสบางอย่าง เช่น Soaringที่ใช้ในการทำDRPQ

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น